ปัญหาที่สำคัญด้านบุคคลากรของ SME
จากการที่วิทยากรของเราที่มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทใหญ่ระดับชาติมานานกว่า 30 ปีและได้มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับบริษัท SME ต่างๆทำให้เห็นความแตกต่างในหลายองค์ประกอบ ในที่นี้จะพูดถึงปัญหาในเรื่องขีดจำกัดด้านความสามารถของบุคคลากร โดยส่วนใหญ่บริษัท SME มีการบริหารในลักษณะเถ้าแก่กับลูกน้อง กล่าวคือเถ้าแก่หรือเจ้าของบริษัทมักจะมีประสบการณ์ที่ดีและมีความสามารถสูงและสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับลูกน้อง ว่าไปแล้วเจ้าของบริษัททำหน้าที่ทุกอย่างทั้งประธานบริษัท กรรมการบริหาร ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการทุกแผนก และบางทีก็ทำหน้าที่เป็นพนักงานไปด้วย
เรียนรู้จากบริษัทใหญ่
ในขณะที่บริษัทใหญ่จะมีบุคคลากรที่เป็นมืออาชีพในฝ่ายต่างๆ แผนกต่างๆ เช่นมีผู้จัดการแผนกทรัพยากรมนุษย์ ผู้จัดการขาย ผู้จัดการการตลาด ผู้จัดการผลิต ผู้จัดการควบคุมคุณภาพ ซึ่งบุคคลเหล่านี้อาจทำงานในสายงานนั้นๆมาเป็นเวลา 5-20 ปีจึงมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องรวมทั้งการวางแผนงานต่างๆในอนาคตได้เป็นอย่างดี บริษัทใหญ่ๆได้ใช้เงินในการจ้างบุคคลากรเป็นอย่างมาก แต่ก็เหมาะสมกับยอดขายในหลักพันล้านหรือหมื่นล้านต่อปี บริษัทจึงเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นเติบโตปีละ 10-20 % อย่างต่อเนื่องทุกๆปี หรือคิดเป็นการเพิ่มยอดขายปีละร้อยล้านหรือพันล้าน
SME ไม่มีเงินจ้างมืออาชีพได้เท่าบริษัทใหญ่ แล้วควรทำอย่างไร
อันดับแรกคือเจ้าของบริษัทควรจะมีความรู้ทุกด้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ สอนลูกน้องให้มีความรู้เพียงพอในงานแต่ละงานที่ลูกนัองทำ รับลูกน้องที่มีความสามารถที่สุดในอัตราที่เงินเดือนที่จะจ้างได้ ฝึกพัฒนาลูกน้องให้มีความสามารถมากขึ้น
ปรับปรุงบริษัทอย่างก้าวกระโดดด้วยลูกน้องที่มีอยู่
SME หากจะปรับปรุงบริษัทโดยการจ้างบุคคลากรมืออาชีพอย่างเช่นบริษัทใหญ่ก็คงเป็นไปได้ยากเพราะในความเป็นจริงแล้วมืออาชีพแต่ละสายงานที่เก่งๆก็คงอยากหางานในบริษัทใหญ่ๆมากกว่า SME
แต่ก็ยังไม่ใช่หมดหนทางเพราะ SME สามารถหาบริษัทที่ปรึกษาที่เหมาะกับขนาดของบริษัท ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินจุดอ่อนของบริษัทและให้คำแนะนำว่าน่าจะปรับปรุงอะไรตามลำดับก่อนหลัง
วิธีการเลือกที่ปรึกษา
ควรเลือกที่ปรึกษาที่มีความสามารถที่มีวิทยากรประสบการณ์สูง หากเป็นไปได้ควรหาวิทยากรที่มีประสบการณ์รอบด้าน เพราะหากเราใช้วิทยากรยิ่งน้อยคนยิ่งดีเพราะประหยัดเวลาที่เราจะอธิบายทำความเข้าใจและวิทยากรท่านนั้นจะได้มองภาพของการพัฒนาบริษัทได้เป็นภาพรวมภาพเดียวกัน เพราะจะได้ระมัดระวังเนื่องจากการปรับปรุงงานในแผนกหนึ่งย่อมส่งผลกระทบกับแผนกข้างเคียง ดังนั้นการวางแผนปรับปรุงครอบคลุมงานทุกแผนกที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญมากและทำให้บริษัทเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น